ประโยชน์ของสมาธิ

1. ประโยชน์ต่อตัวเอง

ช่วยให้จิตใจผ่องใส อ่อนโยน มีความสุข 

     ทำให้เราเป็นคนสุขุมลุ่มลึก ใจเย็น อารมณ์ดี อ่อนโยนและมองโลกรอบตัวในแง่ดี มีความสุข

ช่วยให้ความจำดีและสมองทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

     จิตที่ฝึกผ่านการทำสมาธิจะทำให้เราตั้งใจ ช่วยให้ความจำดีและสมองทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ช่วยพัฒนาบุคลิกภาพให้สง่าผ่าเผย

     ทำให้เรารู้เท่าทันอารมณ์ของเราได้ดี จะเป็นคนใจเย็น และรอบคอบขึ้น บุคลิกท่าทางผ่านการคิด พูด และทำสง่าผ่าเผย ไม่รีบร้อน

ลดความเครียด สุขภาพดี บำบัดโรค 

     สมาธิทำให้สารแห่งความสุขหลั่งออกมา ซึ่งช่วยบำบัดความเครียด ลดระดับความดันโลหิต อันเป็นอาการของโรคต่าง ๆ ได้

ช่วยให้ผิวพรรณอ่อนเยาว์ ผ่องใส ดูเด็กกว่าวัย

     การหายใจเข้าออกอย่างช้า ๆ ช่วยให้ออกซิเจนเข้ามาฟอกเลือดในร่างกายได้ เป็นการล้างสารพิษ 

ทำให้เราได้บุญ

     จิตใจที่เป็นสมาธิ จะสะอาด บริสุทธิ์ เกิดกุศล 

“มุมมองแพทย์กับสมาธิ”

     แพทย์แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด แนะนำให้คนไข้นั่งสมาธิเป็นประจำและสม่ำเสมอ เพราะผลการทดลองทางวิทยาศาสตร์

     จากกระแสคลื่นสมองพบว่า สมองจะมีระบบปิดกั้นเรื่องราวต่าง ๆ ไม่ให้เข้ามา เราจะรู้สึกถึงความโล่งกว้างไม่มีขอบเขต (เหมือนตัวหาย) และช่วยควบคุมอารมณ์ ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจ ลมหายใจ และการเผาผลาญในร่างกายเป็นปกติ จึงส่งผลให้คนที่นั่งสมาธิเป็นประจำมีความจำดีขึ้น ผิวพรรณเปล่งปลั่ง อารมณ์ดี รักษาจิตใจที่ปั่นป่วน กดดัน สมาธิสั้น สับสนวุ่นวายไม่อยู่นิ่ง 

     นอกจากนี้ สมาธิช่วยทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันโรคได้มากขึ้น สามารถรักษาโรคร้ายแรงเรื้อรังและโรคเจ็บปวดเรื้อรัง 14,000 โรค โดยไม่ต้องกินยาแก้ปวด

นิตยสารไทม์
ฉบับวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2546

นิตยสารไทม์
ฉบับวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

“งานวิจัยกับสมาธิ”

     การเจริญสติด้วยการฝึกหายใจประมาณ 10 นาทีต่อวัน มีผลต่อร่างกาย ลมหายใจ และความคิด และเน้นความสนใจไปที่ประสบการณ์ในปัจจุบัน  

     จากการศึกษาวิจัยพบว่า การฝึกสติสัมปชัญญะมีข้อดีหลายประการ ได้แก่ ความจำที่ดีขึ้น ปรับปรุงการไหลเวียน ลดการป่วยเรื้อรัง ลดความเครียด ลดปัญหาการนอนหลับ และลดภาวะซึมเศร้า 

     การวิจัยยังเผยอีกว่าการทำสมาธิ ช่วยให้จิตใจแจ่มใสขึ้น และกระตุ้นสมองส่วนฮิปโปแคมปัส (hippocampus) ซึ่งทำงานเกี่ยวกับการเก็บความทรงจำเก่าและใหม่

2. ประโยชน์ต่อครอบครัว

ครอบครัวมีความสงบสุข 

     หากครอบครัวเรานั่งสมาธิสม่ำเสมอ ทุกคนจะตั้งมั่นอยู่ในศีล ปกครองกันด้วยธรรม อยู่ร่วมกันด้วยความเคารพเมตตา ทุกคนมีความรักใคร่สามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

ครอบครัวมีความเจริญก้าวหน้า 

     เพราะสมาชิกต่างก็ทำหน้าที่ของตนโดยไม่บกพร่อง เป็นผู้มีใจคอหนักแน่น เมื่อมีปัญหาครอบครัวหรือมีอุปสรรคอันใด ย่อมร่วมใจกันแก้ไขปัญหานั้นให้ลุล่วงไปได้

3. ประโยชน์ต่อสังคมและประเทศ

สังคมสงบสุข

     ผู้ที่ฝึกสมาธิย่อมมีจิตใจเข้มแข็งมีคุณธรรม  หากแต่ละคนอบรมใจให้หนักแน่นมั่นคง ปัญหาต่าง ๆ ก็จะไม่เกิดขึ้น

เกิดความมีระเบียบวินัย 

     หากเราทำสมาธิอยู่เสมอ ย่อมให้เกียรติกัน เคารพซึ่งกันและกันและเคารพกฎหมายของสังคมด้วย

บ้านเมืองเจริญก้าวหน้า 

     เมื่อคนในสังคม มีคุณธรรม ใจมีประสิทธิภาพสูงในการทำงาน  ย่อมสามารถช่วยกันสรรค์สร้างสังคมให้เจริญก้าวหน้าได้